21.8.53

Sarah Vaughan : Live In ’58 & ’64

ดีวีดีชุดนี้เป็นภาพขาว-ดำ

ที่สามารถบ่งบอก “รายละเอียด” ของปี ค.ศ.1958 และ 1964 ได้เป็นอย่างดี

ซารา วอร์น ร้องเพลงสดชุดนี้ด้วยน้ำเสียงใส ฉะฉาน ชัดถ้อย ชัดคำเป็นอย่างดี

เมื่อบวกรวมกับภาพ ขาว-ดำ ดีวีดีนี้จึงแลดูคลาสสิคไม่เบา

เธอจึงได้รับการ “โหวต” จากเรา ให้ขึ้นมานั่งแป้นในอันดับ 7 อย่างลงตัวที่สุด...

Tony Bennett : An American Classic (From The Director of “Chicago”)

Tony Bennett : An American Classic (From The Director of “Chicago”)



นี่คือดีวีดีที่ดีที่สุดในชีวิตของโทนี เบนเนต
ภาพดีวีดีชุด Tony Bennett: An American Classic


เพราะกว่าจะสำเร็จจนดูเป็นรูปเป็นร่างอลังการงานสร้างขนาดนี้ ต้องใช้เวลากำลังกาย กำลังใจและเงินทุนไม่น้อยเลยทีเดียว

ร๊อบ มาแชลผู้กำกับภาพยนตร์เรื่อง “Chicago” เป็นผู้กำกับที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จในการกำกับดีวีดีของโทนี เบนเนทชุดนี้

เป็นการร้องคู่ “ดูโอ” กันระหว่างโทนี เบนเนทกับแขกรับเชิญที่ลงตัวที่สุด

แค่คน “แนะนำ” ก่อนเข้าสู่แต่ละฉากก็ยังใช้ดาราระดับ “แม่เหล็ก” ของฮอลลีวูดทั้งสิ้น ได้แก่ บิลลี คริสตัล, จอห์น ทราโวตา, บรูซ วิลลิส, โรเบิร์ต เดอ นีโร และแคธาลีน ซีตา โจนส์

นักดนตรีและนักร้องที่โทนี เบนเนทเลือกมาร้องดูโอด้วย ก็เป็นศิลปินระดับพระกาฬ อาทิ คริส บอทตี, ไมเคิล บูแบร์, เอลตัน จอห์น, ไดอะนา ครอลล์, เค.ดี. แลงก์, บาร์บรา สตรัยซัน และสตีวี วันเดอร์ เป็นต้น

เพลงที่ร้องและถูกบันทึกไว้ในวาระที่โทนี เบนเนทมีอายุครบ 80 ปี ได้แก่ เพลง Smile, Because of You, The Shadow of Your Smile, Rags to Riches, Just In Time, For Once In My Life แน่นอนต้องรวมเพลง I Left My Heart In San Francisco ด้วย

ซึ่งฟังเพลงนี้ทีไรต้องให้นึกถึงเคเบิล คาร์ และบรรยากาศในเมืองซานฟรานซิสโกทุกครั้ง

เชื่อว่า...ทั้งชีวิตของโทนี เบนเนทไม่มีโอกาสสร้าง “ผลงาน” ยิ่งใหญ่มลังเมลืองได้ขนาดนี้อีกแล้ว ดังนั้นผลงานชุดนี้ของเขาจึงได้อันดับที่ 1 ไปครอง

ข้อมูลจาก Jazzanova Jukebox volume one by วีรวัฒน์ กนกนุเคราะห์

10.8.53

นำเรื่อง พิมานหมอก

ภิกษุ ผู้มีกายสงบ
มีวาจาสงบ  และมีใจอันสงบเพียบพร้อม
ผู้ตั้งมั่นดีแล้ว มีอามิสในโลกอันคาย เสียแล้ว
เราเรียกว่า ผู้สงบระงับ

นี่คือจุดเริ่มต้นของการผจญภัยบทใหม่ ต่อจากเร้นพลบ การเปิดประตูสู่ดินแดนไพรัช
ภายใต้สาธารณรัฐไทยใหม่
ภายใต้พลังอำนาจอันลึกลับยากแก่การอธิบายด้วยสมมติฐานทางวิทยาศาสตร์ใดๆ


สิ่งนั้่นซุกและซ่อนอยู่ใน  สารีริกธาตุ

กายอันสงบระงับ

โอม....ข้าแต่ผู้ทรงพลานุภาพ

ข้าแต่สาวกอันพิสุทธิ์แห่งไตรโลกนาถ 
 ณ ที่นั้น คือสถานบริสุทธิ์อันเป็นที่สถิตย์ของมหาบพิตรและสารีริกธาตุ  "พิมานหมอก"


แล้วทันใดนั้นเอง ฉัพพรรณรังสีอันเปล่งปลั่งและร้อนแรงก็แผ่ปกคลุมทั่วดินแดนลึกลับแห่งนั้นจนทะมึนมืดไร้แสงสว่างอันใด


คุ้มครองภายใต้กฎหมายลิขสิทธิ์แห่งสยามประเทศ  วีรวัฒน์ กนกนุเคราะห์ เผยแพร่ผ่านสื่อปรมาณู เช้าวันที่11 สิงหาคม2553 0550นาฬิกา ยามอรุณเริ่มรุ่งงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง

9.8.53

พิมานหมอก

พิมานหมอกนี้เป็นตอนต่อจากเร้นพลบ โดยเรื่องนี้จะเล่าถึงรายละเอียดภายในพิมานหมอก อันเป็นนครสมมติ ภายใต้การควบคุมของรัฐไทย โดยเป็นเมืองศูนย์กลางที่มีเส้นทางเชื่อมต่อกับกรุงเทพมหานคร ซึ่งเกี่ยวข้องกับสารีริกธาตุและการแสวงหา โดยภาคจบของไตรภาคนิยายชุดนี้มีชื่อว่า สู่สุขาวดี จะเริ่มต้นโหมโรง ในไซต์http://www.verawatthxto.blogspot.com
โดยภาคนี้เรื่องเริ่มต้นตรงที่ว่า.....

27.7.53

โหมโรงว่าด้วยเรื่องของนักดนตรีแจ๊ส ผู้เป็นตำนานอมตะ


ก่อนอื่นคงต้องขอเกริ่นนำกันก่อนร่ายยาวว่า ต่อไป เราจะเปิดบล็อคนี้ เพื่อการเผยแพร่บทความที่เกี่ยวข้องกับดนตรีแจ๊สโดยเฉพาะ
ที่เล็งไว้คือจะนำเอาประวัตินักดนตรีแจ๊สระดับสากลมานำเสนอให้ได้รูจักกันมากขึ้น
โดยจะประยุกต์เรื่องที่เล่าให้โยงไปสู่เรื่องของการใช้ดนตรีเป็นสื่อบำบัดอาการทางจิต เพราะปัจจุบันนี้มีคนป่วยด้านนี้เยอะ ในระดับจิตเภทเลยทีเดียว
จากความก้าวหน้าทางการวิจัยพบว่าดนตรีแจ๊สและคลาสสิคมีผลต่อการรักษาอาการฟุ้งเฟ้อทางจิตได้ดีพอสมควร
นอกจากนั้นแล้วเราจะนำเอาเกร็ดที่น่าสนใจของนักดนตรีแจ๊สมาเผยแพร่ในรูปแบบของบล็อคในเมืองไทย โดยสื่อสารเป็นภาษาอังกฤษ เนื่องจากมีกลุ่มผู้อ่านเกินครึ่งเป็นชาวต่างชาติ

เชื่อว่าศาสตร์การบำบัดอาการทางจิตด้วยดนตรีแจ๊สยังมีคนศึกษาไม่มากนัก ถ้าเราไม่เริ่มแล้วใครจะทำจริงมั้ยครับ

ที่ต้องใช้ภาษาอังกฤษ เพราะต้องการสื่องานวิจัยด้านนี้ไปสูวงกว้างในระดับสากลด้วย

อย่างไรก็ตาม อยากให้มาตามอ่านกันเยอะๆ เพื่อจะได้เปิดอภิปรายกันในวงกว้างต่อไป ในอนาคตสมัย

ด้วยไมตรีจิต

วีรวัฒน์ กนกนุเคราะห์ verawatkanok

สำหรับนิยายเรื่องพิมานหมอกและสู่สุขาวดี กำลังเขียนอยู่
บังเอิญช่วงนี้มีปัญหาชีวิตเล็กน้อย

แต่ชีวิตก็ยังดำเนินต่อไปได้ เราเองก็แอบหวังไว้ลึกๆว่าปลายปีนี้ พิมานหมอกคงจะเป็นรูปเป็นร่างให้ได้ชมกันไม่มากก็น้อย

ขอบพระคุณมาล่วงหน้า สำหรับความห่วงใยและการถามไถ่ถึงมาเสมอ

ขอบคุณจริงๆครับ

4.6.53

พิมานหมอก

เรื่องพิมานหมอกนี้เป็นภาคต่อของเร้นพลบ ที่จะนำคุณผู้อ่านเข้าไปสู่เมืองใหม่ที่มีชื่อว่าพิมานหมอก เมืองที่ว่านี้เกี่ยวข้องโยงใยกับโลกอนาคตของประเทศไทย ซึ่งได้เล่าถึงรายละเอียดไปบ้างแล้วในเรื่องเร้นพลบ แต่สำหรับพิมานหมอกนี้จะมีความเป็นผี เรื่องลึกลับซับซ้อนของนรกสวรรค์ รวมไปถึงตัวละครแฟนตาซีที่จะพากันพาเหรดมาสร้างอารมณ์หักมุมให้ติดตามอย่างต่อเนื่อง เป็นนิยายไซไฟพีเรียด ที่รับรองว่าคุณต้องได้รับสมองอย่างโลดโผนโจนทะยานอย่างแน่นอนที่สุดครับ อ่านเรื่องย่อก่อนใครได้ที่www.verawatkanok.blogspot.com